Saturday, July 6, 2013

ทำไมต้องทำธุรกิจ MLM ?


      ถ้าคุณรู้สึกเบื่องานประจำ เบื่อที่จะต้องรับมือกับเจ้านาย หรือลูกค้าจอมโวยวาย เบื่อการเมืองภายในที่ทำให้เราไม่ก้าวหน้าสักที หรือรู้สึกแย่ที่เงินขาดมือ ชักหน้าไม่ถึงหลัง คุณก็คงเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากหารายได้เพิ่ม คุณอาจจะเคยทำ OT เคยเพิ่มวุฒิการศึกษาเพื่อปรับฐานเงินเดือน หรือย้ายงานใหม่ แต่เมื่อคุณย้อนกลับไปดู คุณอาจพบว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตคุณจริงๆ ปัญหาเก่าๆที่ยังคงกลับมาหลอกหลอนคุณอยู่ดี
     วันหนึ่งคุณก็พบว่าคุณต้องทำธุรกิจ เพราะมันยั่งยืนกว่า และแก้ปัญหาเรื่องที่ว่ามาได้จริง แต่....!!! ทำไม? ต้องเป็นธุรกิจ MLM... วันนี้เรามาหาคำตอบกัน

1.   โอกาสในการสร้างธุรกิจของตัวเองที่ดีที่สุด
การสร้างธุรกิจในปัจจุบันมี 3 รูปแบบใหญ่ๆ คือ สร้างธุรกิจด้วยตัวเอง ซื้อแฟนไชส์ และธุรกิจ MLM
  • สร้างธุรกิจด้วยตัวเอง สิ่งที่คุณจะพบคือ มันไม่ยาก แต่ “มันโคตะระยากส์” เพราะนอกจากคุณจำเป็นต้องมีเงินทุนแล้ว (100,000 – 10,000,000บาท) ยังจำเป็นจะต้องมีทักษะในการทำธุรกิจ ถ้าคุณมีเงินอยากเดียวคุณอาจจะอยู่ไม่รอดถึง 3-5 ปี บางรายอาจจะอยู่ไม่ถึง ไตรมาศแรกเสียด้วยซ้ำ จากสถิติบอกว่า 9 ใน 10 ธุรกิจใหม่จะเจ๊งภายใน 5 ปี ส่วนถ้าคุณมีเพียงแค่ความรู้ในการทำธุรกิจอย่างเดียว แต่ไม่มีเงินทุน คุณก็ต้องกู้เงินทุนจากสถาบันการเงินต่างๆมาทำธุรกิจ คุณก็อาจจะไปไม่รอดเมื่อเจอสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ คุณก็จะหาเงินไม่พอที่จะจ่ายดอกเบี้ยได้ แล้วก็เจ๊งในที่สุด

  • ซื้อแฟนไชส์ การซื้อแฟนไชส์นั้นเสี่ยงน้อยกว่า การทำธุรกิจด้วยตัวเองเหตุผล เพราะว่าเจ้าของแฟนไชส์นั้นจะเป็นคนทำการตลาดให้กับแบรนด์ และยังสอนทักษะในการทำธุรกิจให้เป็นมาตรฐานเดียวกับสาขาอื่นๆ แต่ส่งที่คุณต้องมีคือ เงินทุน (ตั้งแต่ 100,000 – 10,000,000บาท) เพื่อไปซื้อลิขสิทธิ์แฟนไชส์ ถ้าคุณไม่มีเงินทุนมากมายขนาดนั้น คุณปิดประตูตัวเลือกนี้ได้เลย และบางแห่งนั้นคุณต้องแบ่งผลกำไรจากยอดขายในแต่ละเดือนให้กับบริษัทต้นสังกัดอีกด้วย

  • ลงทุนทำธุรกิจ MLM ธุรกิจ MLM นั้นคุณสามารถเริ่มสร้างธุรกิจได้โดยไม่มีความเสี่ยง ด้วยเงินทุนน้อยที่สุด (ตั้งแต่ 100 – 1,000 บาท) ในขณะเดียวกันก็มีคนสอนความรู้ ทักษะการทำงาน จนคุณสามารถสร้าง และดำเนินธุรกิจของตนเองได้ มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ
ธุรกิจ MLM จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่คุณจะได้สร้าง และเป็นเจ้าของธุรกิจ เพราะคุณจะไม่มีข้อจำกัดด้านเงินทุน และทักษะความรู้ ในการสร้างธุรกิจ 

2.   เปลี่ยนรายจ่าย เป็นรายได้


       ธุรกิจ MLM เปิดโอกาสให้คุณมีส่วนร่วมในค่าการตลาด 60% ของราคาสินค้า ซึ่งเคยเป็นของบริษัทผลิตสื่อ โฆษณา ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าปลีกในธุรกิจรูปแบบอื่น
ซึ่งทุกวันนี้คุณยังคงทำการตลาดให้กับเจ้าของสินค้าฟรี ด้วยความ “เต็มใจ” เป็นอย่างยิ่ง เพราะงานวิจัยชี้บอกว่า 10% ของคนที่ซื้อสินค้า มาจากดาราที่ชื่นชอบมาโปรโมทสินค้าในสื่อโฆษณา และอีก 90% ซื้อเพราะเพื่อนแนะนำให้ซื้อ และ 10% แรกมาเล่าให้ฟังว่าว่า สินค้านี้ใช้แล้วดี ใช้แล้วถูกใจ จึงแสดงให้เห็นว่า Words of Mouth หรือการพูดต่อ แบบ ปากต่อปาก มีพลังมากที่สุดในการทำการตลาด และตัวคุณก็คงเป็นอีกหนึ่งคนที่เคยเป็น  10% แรก คุณอาจจะเคยไปดูหนังในโรงแล้วออกมาบอกเพื่อนคุณว่ามันดีมาก ต้องรีบไปดู หรือคุณเคยทานขนมชนิดหนึ่งแล้ว ไปบอกเพื่อนต่อว่าอร่อยมากลองไปซื้อมาทานดู โฆษณาให้เพื่อน หรือคนรอบข้างเสร็จสรรพ แต่คุณไม่เคยได้อะไรจากผู้ผลิตเลยแม้แต่ครั้งเดียว
       ถ้าคุณเข้ามาทำธุรกิจ MLM คุณจะได้มีโอกาสสามารถเปลี่ยนรายจ่ายจากการที่คุณซื้อสินค้า มาเป็นรายได้จากการที่คุณแชร์ประสบการณ์การใช้สินค้าอย่าง “เต็มใจ” ที่คุณทำให้คนอื่นฟรีๆมาตลอดชีวิต...

3.   อิสรภาพทางเวลา


เวลาของทุกๆคนนั้นมีอยู่จำกัด หนึ่งวัน 24 ชั่วโมงเท่ากัน แล้วเราก็ไม่รู้ด้วยว่าเราจะจากโลกนี้ไปเมื่อไหร่ สำหรับเงินนั้นคุณสามารถหาได้เรื่อยๆตราบเท่าที่คุณยังมีชีวิตอยู่
การหาเงินนั้นก็ยังแบ่งได้อีก 2 ทางคือ “เลี้ยงชีวิต” และ “สร้างชีวิต”
  • เลี้ยงชีวิต บางคนเลือกที่จะทำตัว เช้าชาม เย็นชาม กับงานประจำ และใช้ชีวิตให้อยู่รอดไปวันๆ โดยไม่สนใจว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร และจะได้เลื่อนตำแหน่งเมื่อไหร่ จะได้เป็นเจ้านายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
  • สร้างชีวิต ในขณะที่บางคนขยันเต็มที่ ทำงานประจำทำแบบชั้นเลิศ ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งใหญ่โต มีเงินเดือนสูงๆพอที่จะสร้างชีวิตได้ หรือสร้างธุรกิจของตัวเองก็ทำเต็มที่ ทำแบบชั้นเลิศ เพราะเค้าตระหนักรู้ว่าธุรกิจนี้เป็นของเค้าเอง จะรอด หรือจะรุ่งก็ขึ้นอยู่กับตัวเอง และเค้าก็สร้างผลกำไรมหาศาล สามารถสร้างอนาคต สร้างชีวิตให้ดีขึ้นได้เช่นกัน
จงสร้างชีวิต และเป็นชีวิตที่สมบูรณ์
แต่ว่าเพียงแค่การสร้างชีวิตนั้นยังไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด เพราะต้องเป็นชีวิตที่ “มีคุณภาพ” ด้วย....จะมีประโยชน์อะไรถ้าคุณมีตำแหน่งใหญ่โตในบริษัท หรือเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โต แต่ต้องทำงานวันละ 16 ชั่วโมง คุณไม่เคยมีเวลาไปทำอย่างอื่นที่คุณอยากทำ ไม่เคยได้ดูแลครอบครัว พักผ่อนน้อย ทานอาหารขยะ สุขภาพเสื่อมโทรม ไปไหนที่อยากไปก็ไปไม่ได้ สุดท้ายบั้นปลายชีวิตครอบครัวแตกแยก เพราะไม่มีเวลาดูแลครอบครัว ลูกมีปัญหาเพราะไม่เคยให้เวลากับลูก มีเงินมากมายแต่ไม่เคยได้ใช้ สุขภาพย่ำแย่ เพราะทำงานหนัก ไม่ได้ดูแลตัวเอง สุดท้ายชีวิตจบลงที่ โรงพยาบาล ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ไปไหนไม่ได้ เงินที่หามาได้มากมาย ถูกใช้จ่ายให้กับค่ารักษาพยาบาล เพื่อยื้อให้ชีวิตอยู่นานที่สุด...มันจะมีประโยชน์อะไร?
ชีวิตคุณคงจะแห้งเหี่ยว อับเฉา และไร้ชีวิตชีวานอกเสียจากคุณจะเป็นพวก “บ้างาน” มีความสุขที่ได้ทำงาน ไม่ใช่การใช้ชีวิตอย่างที่อยากทำ อยากเป็น ไม่สนใจคนรอบข้าง และอยู่คนเดียว

ถ้าคุณจะมีชีวิตที่มีคุณภาพ มันมีเพียง 2 ทางเลือก คือ ธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีคน ทำงานแทนคุณ หรือ ธุรกิจ MLM
     แต่ว่าถ้าหากคุณไม่มีเงินทุน ไม่มีทักษะในการทำธุรกิจ....ธุรกิจ MLM จึงเป็นเพียงคำตอบเดียว ที่จะสามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้เพราะเมื่อคุณธุรกิจสำเร็จ คุณจะมีเครือข่ายผู้บริโภคที่เต็มใจซื้อสินค้าของคุณโดยที่คุณไม่ต้องดูแลพนักงานเลยแม้แต่คนเดียว หรือไม่คุณก็ต้องเลือกให้ชีวิต มีแค่พอมีพอกิน รอวันที่บริษัทจ้างออกจากงาน แล้วก็ใช้เงินเก็บที่เหลือกับบั้นปลายชีวิตในวันที่เราทำงานไม่ไหว

4.   ได้ใช้ชีวิต อย่างที่ตั้งใจ
     ชีวิตของคนทั่วๆไป ไม่ว่าจะทำงานประจำ หรือทำธุรกิจส่วนตัว ล้วนแล้วแต่ติดอยู่กับชีวิตแบบ 20-40-5 ก็คือ เรียนรู้ 20 ปี จากนั้นก็ทำงาน “เลี้ยง” หรือ “สร้าง” ชีวิตอีก 40 ปี และ ใช้ชีวิตที่เหลือในบั้นปลาย ในอีก 5 ปีสุดท้าย หรืออาจจะมากกว่าแต่ก็คือได้ใช้ชีวิตตอนชราแล้วเช่นกัน...จนถึงวันที่จากโลกนี้ไป!!!
       เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะทำงานประเภทไหน กว่าคุณจะได้หยุดแล้วออกมาใช้ชีวิตได้จริงๆก็คงต้องหลังจากอายุ 60 ปี กว่าที่คุณจะมีเงินพอที่จะไปเที่ยวไปใช้ชีวิต หรือมีเงินพอที่จะเอาไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิต ไม่ว่าจะอยู่บ้าน หรือ โรงพยาบาลก็ตาม ก็สุดแล้วแต่ว่า 60 ปีก่อนหน้านี้คุณใช้ชีวิตแบบไหน
มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะหยุดทำงานไปเป็นปีๆโดยไม่ต้องคำนึงถึงรายได้ แล้วกลับมาต่อยอดกิจการ หรืองานที่คุณทิ้งไปนานเป็นปีให้กลับมารุ่งเรืองเหมือนก่อนวันที่คุณจะหยุดไปพักร้อน นานร่วมปี หรือาจจะเป็นไปได้ถ้าคุณมีระบบในการทำงาน หรือคนบริหารงานแทนคุณ!!! คำถามคือ...ระบบ หรือคน ที่คุณมีไว้ใจได้มากแค่ไหน???
       แต่สิ่งหนึ่งที่คุณไม่มีแน่ๆก็คือ “แรง” คุณอาจจะมีเงินมากมาย คุณอาจจะมีเวลาว่างเหลือเฟือ แต่คุณก็ออกไปใช้ชีวิตอย่างที่เคยตั้งใจไว้ว่าอยากจะทำตอนยังเป็นหนุ่มสาวไม่ไหวแล้ว ด้วยเหตุเพราะความชราภาพ โรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า...
        แต่ถ้าคุณเลือกเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างชีวิต เป็นธุรกิจ MLM คุณจะเปลี่ยนรูปแบบชีวิตจาก 20-40-5 เป็น 20-5-40 นั่นคือ คุณจะใช้เวลาในการสร้างชีวิตเพียง 5 ปี และ 40 ปีที่เหลือใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ เพราะคุณจะมีครบทั้ง 3 อย่าง คือ เงิน เวลา และแรงที่จะนำพาให้คุณออกไปทำในสิ่งที่อยากทำ อยากเป็น อยากมี...
5.   สุขภาพ


     เมื่อคุณทำธุรกิจ MLM คุณจะเป็นคนที่มีสุขภาพดี ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจ
ในแง่สุขภาพกาย คุณจะได้รับการปลูกฝัง และตระหนักในเรื่องการกิน และการใช้ชีวิตอย่างถูกวิธีซึ่งเป็นผลพลอยได้ที่วิเศษสุด เพราะธุรกิจ MLM มักจะมีผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม สินค้าเพื่อสุขภาพที่มีคุณภาพสูง ซึ่งเมื่อคุณอยู่ในธุรกิจนี้คุณก็จะสามารถได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน และตรงต่อความต้องการของร่างกายที่มนุษย์ต้องการ
นอกจากนี้เมื่อคุณประสบความสำเร็จ คุณก็จะมีเวลามากขึ้น ทำให้คุณมีเวลาที่จะใส่ใจดูแลสุขภาพ อาหารการกิน ของตนเองและครอบครัว หรือคนที่คุณรักได้อีกด้วย อีกทั้งยังหมดปัญหาเรื่องการเงิน คุณก็จะเป็นคนที่มีความกังวล หรือเครียดน้อยกว่าคนที่เลือกที่จะทำงานเป็นลูกจ้าง หรือธุรกิจทั่วๆไป คุณก็จะเป็นคนที่มีสุขภาพใจที่แข็งแรงสมบูรณ์


"วันนี้ท่านใดก็ตาม ที่กำลังมองหางาน ออกจากงาน หรือกำลังคิดว่าจะลงทุนทำกิจการร้านค้า หรือธุรกิจสักอย่างหนึ่ง ท่านจงเก็บเงินทุนก้อนนั้นไว้ แล้วลองหันมาลองทำธุรกิจ MLM ที่ชื่อว่า Unicity ด้วยเงินลงทุนเพียง 500 บาท และแรงใจที่มุ่งมั่นเพื่อจะสร้างชีวิตให้ประสบความสำเร็จอย่างที่เคยวาดฝันเอาไว้ ผมขอรับรองว่า Unicity ก็สามารถเป็นคำตอบที่ดีที่สุดคำตอบหนึ่งสำหรับชีวิตของคุณได้ครับ"





ติดต่อทีมงาน : คุณปรีชา สาคร 0802037436

No comments:

Post a Comment

Total Pageviews